รีวิว GoPro Hero4 Session กล้อง Action Camera ตัวเล็ก สเปกแจ่ม

GoPro Hero4 Session กล้อง Action Camera ตัวเล็ก สเปกแจ่ม

GoPro คือหนึ่งในผู้ผลิตกล้อง Action Camera ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยคุณภาพของภาพและวิดีโอที่ดีมาก ประกอบกับความอึด ถึก ทนของอุปกรณ์ ทำให้ผู้คนในหลายๆวงการต่างเลือกใช้งาน GoPro กันทั้งนั้น

GoPro Hero4 Session ออกวางจำหน่ายในกลางปี 2015 ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทาง GoPro เองด้วยการ Redesign หน้าตากล้องใหม่ จากหน้าตาเดิมที่มีรูปทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้าให้กลายเป็นทรงลูกเต๋า (cube) แทน และขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมมาก

การ Design แบบใหม่ GoPro Hero4 Session จะสามารถกันน้ำได้ 10 เมตรโดยไม่ต้องใส่ Housing เหมือนรุ่นพี่และเปลี่ยนจากการใช้ Housing มาใช้กรอบคลุมรอบเครื่องในลักษณะของ frame แทน (ซึ่งในรุ่นเก่าๆ จะใช้ชื่ออุปกรณ์นี้ว่า The Frame)

ด้วยการเคลมว่าเป็น GoPro ที่เล็กที่สุด เบาที่สุด และใช้งานสะดวกที่สุด จึงทำให้กล้อง GoPro Hero4 Session นั้นยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีกสำหรับผม

GoPro Hero4 Session วางจำหน่ายในประเทศไทยกลางปี 2015 ด้วยการเปิดราคามาชนกับรุ่น Hero4 Silver โดยตรงคือหมื่นสี่กว่าๆ คาดว่ายอดขายคงไม่กระเตื้องสักเท่าไหร่ ก่อนที่ Mentagram ผู้จัดจำหน่ายประกาศลดราคาลงมาเหลือเพียงหมื่นนิดๆ พร้อมกับเยียวยาผู้ซื้อก่อนด้วยการแจก voucher เพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมแทน น่าจะส่งเสริมการขายได้อีกพอสมควร

แต่นั่นไม่ใช่ราคาที่ผมซื้อ ในเดือนธันวาคมที่ผ่าน ผมได้ผ่าน Shop ของทาง GoPro และได้เห็นการปรับลดราคาลงมาอีกรอบในราคาที่เย้ายวนใจมากคือ 7,990 บาท ผมจึงแทบจะไม่ลังเลเลยที่จะสอยมาใช้งาน ด้วยสเปคที่ได้มาถือได้ว่าคุ้มค่ามากแล้วสำหรับรุ่นนี้

GoPro Hero4 Session อาจจะไม่ใช่กล้อง Action Camera ที่ถูกที่สุด ทนที่สุด หรือคุณภาพของภาพและวิดีโอดีที่สุด แต่ด้วยราคาขนาดนี้ ผมคิดว่ามันดีเกินพอสำหรับราคานี้แล้ว ด้วยคุณภาพการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 1440p และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ 1080p ที่ 60fps และมาพร้อมกับภาพนิ่งที่ 8ล้านพิกเซล แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับการใช้งาน

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก GoPro Hero4 Session

ภาพถ่ายกลางวันแสงปกติ

ภาพถ่ายโคลสอัพ (แทบจะจ่อติดดอกไม้เลย)

ภาพถ่ายสภาพแสงน้อย

ภาพถ่ายกลางคืน

ภาพถ่ายกลางคืน

คุณภาพวิดีโอไม่อาจจะเทียบได้กับรุ่นพี่อย่าง GoPro Hero4 Silver ที่สามารถถ่ายได้ถึง 4k และมาพร้อมกับจอสัมผัสด้านหลัง แต่คุณภาพของ GoPro Hero4 Session ถือว่าไม่ด้อยเลยทีเดียว ในกลางวันที่สภาพแสงดีๆ ภาพที่ได้ผมรู้สึกด้วยซ้ำว่าสวยกว่ารุ่นเก่าๆอย่าง Hero3+ Silver ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเทียบกับ Hero4 Silver ก็ยังถือว่าด้วยอยู่นิดหน่อย

ทั้งหมดนี้ทดสอบถ่ายโดยการติดกล้องไว้กับมอเตอร์ไซค์ Yamaha Filano ซึ่งผมคาดเอาไว้ว่าจะภาพจะสั่นสะเทือนยิ่งกว่านี้อีก เพราะว่า Yamaha Filano ตัวที่ผมใช้ ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสั่นของเครื่องยนต์ (และถ่ายทอด DNA ไปถึงรุ่นน้องอย่าง Yamaha Grand Filano)

การมีปุ่มมาให้เพียง 2 ปุ่มอาจจะง่ายต่อการเรียนรู้ ใช้งานง่าย แต่ถ้าจะถามหาความรวดเร็วยังติดจะลำบากอยู่อีกนิดหน่อยผสมการกับไม่มีจอด้านหลังมาให้ ทำให้การเล็งอะไรสักอย่างที่ต้องการความแม่นยำ อาจจะต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด app GoPro เพื่อ live view แทน แต่ถ้าไม่ประณีตอะไรมาก เลนส์ wide ที่ให้มานั้นก็เพียงพอที่จะเก็บภาพได้ครอบคลุมแล้ว อยากจะเซลฟี่ก็แค่ยื่นมาออกไปข้างหน้า แค่นี้พอเหลือเฟือแล้ว จะมีสักสี่ห้าคนในเฟรมก็ไม่หวั่น แถมยังมีโหมด Superview ที่ขยายภาพให้ดูกว้างขึ้นอีกนิดหน่อยให้เข้าใกล้เคียงกับภาพ fish eye

ไมค์โครโฟนมีมาให้ถึง 2 ตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้ดีกว่าเดิม เท่าที่ลองใช้งานติดกับมอเตอร์ไซค์ดู พบว่าเสียงลมน้อยกว่าคิดเยอะมาก ถือว่าทำได้ดีจริงๆ

อีกหนึ่งอย่างที่ GoPro Hero4 Session ทำได้แบบเดียวกับรุ่นพี่ตัวท๊อปอย่าง Hero4 Black คือการ Rotate ภาพ และใน Hero4 Session นั้นสามารถ Auto Rotate ได้หรือจะเลือกให้เป็น Up หรือ Down ได้อย่างใดอย่างนึง น่าเสียดายที่ไม่สามารถ Rotate 90ํ ได้ทำได้เพียง 180ํ เท่านั้น (นั่นคือการตีลังกากลับบน-ล่างของกล้อง)

การถ่าย TimeLapse คึออีกหนึ่งอย่างที่ผมชอบ กดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ 3 วินาทีก็เริ่มต้นถ่ายแล้ว สามารถตั้งค่าต่างๆเช่นวินาทีในการถ่าย (ทุกๆกี่วินาที) ได้ใน app GoPro และกดชัตเตอร์อีกครั้งเพื่อหยุดการทำงาน

ข้อเสียอย่างนึงที่พบเลยคือ กดถ่ายภาพนิ่งจากกล้องเลยไม่ได้ กด 1 ครั้งคือถ่ายวิดีโอ กดค้างคือถ่าย TimeLapse แต่ไม่มีกดถ่ายรูป ต้องเข้าไปใน app แล้วกดถ่ายเอา ไม่สะดวกเอาเสียเลย หรือตั้ง default shutter button แทน

อุปกรณ์เสริมต่างๆพวก Mount สามารถใช้งานพร้อมกับรุ่นเก่าได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่อุปกรณ์เสริมบางอย่างต้องใช่เฉพาะ ที่เห็นออกมาพร้อม GoPro Hero4 Session เลยคือ Floaty หรือเคสลอยน้ำนั่นเอง เนื่องจากขนาดของตัวเครื่องที่ไม่เท่ากับรุ่นเก่านั่นเอง

การกันน้ำ ตัวมันเองทำได้ถึง 10 เมตรอยู่แล้ว แถมการเปิดฝาเครื่องโดยไม่ได้ตั้งใจในน้ำนั้นแทบจะเป็นไปได้ยาก เพราะว่าออกแบบมาค่อนข้างดี แต่ควรระวังหากกล้องยังเปียกอยู่ก็ไม่ควรจะไปเปิดมัน เดี๋ยวน้ำจะเข้าเอา

แบตเตอรี่เคลมว่าถ่ายวิดีโอได้ถึง 2 ชม. ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป การชาร์ทแบตเตอรี่สามารถเสียบผ่าน USB ได้เหมือนรุ่นเก่า นั่นคือคุณสามารถใช้ Power bank มาชาร์ตได้เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ได้เนื่องจากเป็นแบบ built in นั่นเอง

GoPro Hero4 Session ดูแล้วเหมาะสมเป็นอย่างมากกับผู้ที่ต้องการ action camera ระดับเริ่มต้นที่การใช้งานไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก ไม่ต้องสมบุกสมบันอะไร ไม่ได้เอาไปดำน้ำ แค่ถ่ายเล่นในสระ (จริงๆก็ดำน้ำตื้นๆได้แหละแต่ไม่เหมาะนัก เอาแค่ snorkle ก็พอ) ไฟล์วีดีโอค่อนข้างดีตามสภาพแสงแต่ถ้ามืดมากนักก็อยู่ในแค่ระดับรับได้ หากต้องการไฟล์ที่ดีกว่านี้ต้องมองหารุ่นที่สูงกว่านี้อย่าง Hero4 Silver หรือ Hero4 Black แทน และถ้าสนใจเป็นยี่ห้ออื่นๆ Sony ตัวท็อปหรือ DJI ก็น่าสนกว่าอยู่เหมือนกัน

ที่มา : ITMECHAI.com