Frame Time คืออะไรมาทำความรู้จักกัน

Frame Times คืออะไร

Frame Time เกมเมอร์หลายๆคนไม่เคยจะสนใจคำนี้ และหลายๆคนไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า Frame Time คืออะไร ปกติรู้จักกันแต่ Frame Rate ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นใช้เล่นเกมส์ได้ลื่นแค่ไหน Frame Rate ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งเล่นเกมส์ลื่นเท่านั้น (ไม่นับตอน Internet ช้าแล้วกระตุกงึกๆนะครับ)

เป็นเรื่องจริงที่ Frame Rate เป็นตัวกำหนดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น (นับรวมไปถึงเครื่องเกมส์อย่าง Playstation กับ Xbox ด้วยนะครับ) สามารถเล่นเกมส์ได้ลื่นหรือเปล่า เพราะว่า Frame Rate มันคือการแสดงภาพออกมาได้เท่าไหร่ใน 1 วินาที โดยมีการใช้หน่วยเป็น fps (frame per sec) ซึ่งยิ่งมีค่าสูงเท่าไหร่ยิ่งได้ภาพที่สมูทและลื่นมากขึ้นเท่านั้น และภาพที่ลื่นนั้นจะต้องมากกว่า 30 fps เป็นต้นไป หรือควรจะถึง 60 fps ถึงจะดี

กราฟฟิคการ์ดหรือที่เรียกกันว่าการ์ดจอนั้นมีหลายระดับ เปรียบกับกับเกมส์ๆนึง การ์ดจอตัวที่ 1 ปั่น Frame Rate ได้สูงสุดที่ 100 fps แต่การ์ดจอตัวที่ 2 ปั่น Frame Rate ได้สูงสุดแค่ 60 fps แค่นั้น ถ้าเปรียบเทียบแล้วดูเหมือนว่าการ์ดจอตัวแรกนั้นสามารถเล่นเกมส์ได้ลื่นไหลกว่าตัวที่สอง แต่ในสภาพความเป็นจริงมีเงื่อนไขบางอย่างที่สามารถทำให้เวลาใช้งานจริงนั้นการ์ดจอตัวแรกนั้นเล่นแล้ว “กระตุก” กว่าการ์ดจอตัวที่สอง

เงื่อนไขที่ว่านั้นคือ ‘Frame Time’ นั่นเอง แล้ว Frame Time คืออะไร ต่างจาก Frame Rate ตรงไหน ผมขออธิบายง่ายๆไว้อย่างนี้แล้วกันครับ

Frame Time คือ ระยะเวลาในการเรนเดอร์ (Render) ‘ภาพ’ 1 เฟรม

Frame Rate คือ จำนวนรวมของภาพที่สามารถเรนเดอร์ออกมาได้ใน 1 วินาที

ภาพหลายๆภาพเมื่อนำมาต่อกัน (Frame) แล้ว ตาของเราจะเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว ยิ่งจำนวนภาพที่นำมาต่อกันมีมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะเห็นภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นขึ้น โดยตาคนเรานั้นมีความสามารถในการเห็นภาพเคลื่อนไหวอยู่ที่ 24 fps ถ้าเฟรมน้อยกว่านี้เราจะเห็นว่ากระตุก โดย Frame Time มันคือการอธิบายการสร้าง Frame Rate ออกมา โดย ใน 1 วินาทีนั้นถ้าการ์ดจอสร้าง Frame Rate ได้ที่ 100 fps นั่นเท่ากับว่าค่า Frame Time จะต้องเท่ากับ 10 ms ต่อ 1 เฟรม ( 1000 ms เท่ากับ 1 วินาที)

‘อย่างนี้ Frame Time มันก็คือ Frame Rate น่ะสิ จะไปสนใจทำไม ดูค่า fps ก็น่าจะพอแล้ว’

แล้ว Frame Time นั้นสำคัญยังไง

ในความเป็นจริงมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเรนเดอร์ภาพแล้วใช้เวลาเท่ากันทุกเฟรม โดยใน 1 วินาที อาจจะมีบางเฟรมที่ใช้เวลาเรนเดอร์นานกว่าภาพอื่นด้วยสภาพแวดล้อมบางอย่างเช่น เอฟเฟคที่ต่างกันหรือแม้กระทั่งข้อจำกัดทางด้าน Hardware เช่น VRAM เต็ม ต้องทำการ swop, flush ทำให้มีการเรนเดอร์เฟรมสะดุด การสะดุดตรงนี้แหละครับที่ทำให้ภาพที่ได้นั้นไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น ถึงแม้ว่า overall Frame Rate นั้นจะสูงเนื่องจากค่าโดยรวมใน 1 วินาทีมีการเรนเดอร์ได้มากก็เถอะ

ยกตัวอย่างรูปให้เข้าใจกันง่ายขึ้น

(ทำรูปให้ดูคร่าวๆนะครับ จริงๆรูปต้องถี่ๆกว่านี้)

ถึงแม้จะปั่นเฟรมเรตออกมาได้เยอะก็จริง แต่ถ้ามีการสะดุดของ Frame Time อยู่บ่อยๆก็จะทำให้ภาพของเกมส์สะดุดได้มากกว่า อย่างที่ผมยกตัวอย่างการ์ดจอ 2 ตัวข้างบน ซึ่งถ้านับว่าอยู่กในสถานการณ์เดียวกัน การ์ดจอตัวแรกทำ Frame Rate ได้ 100 แต่ถ้า Frame Time ไม่เรียบอยู่บ่อยๆ จะทำให้ภาพไม่ลื่นเท่าการ์ดจออีกตัวที่ผมกำหนดให้สร้าง Frame Rate ได้ต่ำกว่าแต่ Frame Time ราบเรียบเสมอกันไปเรื่อยๆ

‘แล้วเราจะเช็ค Frame Time ได้ยังไง’

เว็บรีวิว Hardware หลายๆเว็บเริ่มนำเสนอเพิ่มเติมเรื่อง Frame Time กันบ้างแล้ว โดยอาจจะสรุปผลข้อมูลออกมาเป็นกราฟไว้ให้เราได้ดู หรือแม้กระทั่งบางเจ้านำเสนอเป็นวิดีโอรีวิวให้ได้เห็นกันแล้ว ซึ่งเราจะดูได้ง่ายขึ้นเยอะ ได้เห็นภาพเคลื่อนไหว มีการเปรียบเทียบอุปกรณ์ว่าตัวใดทำได้ดีกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น DigitalFoundry ใน Youtube ตามคลิปที่นำเสนอไว้ดังนี้

เป็นคลิปเปรียบเทียบระหว่าง Nvidia GTX970 กับ AMD R9-390 โดยใช้ CPU ตัวเดียวกันคือ Intel i7-4790k โดยเราจะได้เห็นกราฟของทั้ง Frame Rate แล้ว Frame Time วิ่งคู่กัน หากเป็นเมื่อก่อน เราก็ดูแค่ว่าอุปกรณ์ตัวไหนมี Frame Rate มากกว่าแค่นั้น แต่เมื่อมี Frame Time มาด้วย จะทำให้ได้รู้มากขึ้นกว่า อุปกรณ์ตัวใดจะ ‘ลื่น’ กว่า นั่นเอง

(รูปทั้งหมดกดดูขนาดใหญ่ได้เลยนะครับ)

โปรดสังเกตุกราฟ Frame Time ทางช่องซ้าย

กราฟ Frame Time ยังคงราบเรียบทั้งคู่

กราฟ Frame Time ของสีแดง (R9-390) มีการตกลงเป็นจังหวะ แม้เฟรมเรทจะสูงกว่า

จากภาพนี้เราเห็นได้อย่างชัดเจนถึง Frame Time ที่ตกลงมากของ R9-390 ไม่เหมือนกับ GTX970 ที่ยังนิ่งอยู่

นี่ก็เช่นเดียวกัน ตกลงอย่างชัดเจน

สรุปคือ Frame Time มีความสำคัญต่อความลื่นไหลของภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า Frame Rate ที่เราพูดถึงกันมาตลอด เราไม่ควรจะไปยึดติดว่าเฟรมเรตของเกมส์นั้นยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะว่ามันถูกแค่ครึ่งเดียว หาก Frame Rate ไม่น้อยจนเกินไป (ต่ำว่า 30 fps) แต่ค่า Frame Time ดี เราก็ได้ภาพที่ลื่นไหลต่อเนื่องขึ้น และจะดีมากขึ้นอีกหากค่าทั้งคู่อยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะเกมส์บางเกมส์ที่ยังคงต้องการ Frame Rate ที่สูงๆอยู่เช่นเกมส์แนว FPS (First Person Shooting) ที่ต้องการภาพที่ไวมากๆ หรือแม้กระทั่งเกมส์แนวกีฬาที่ภาพเคลื่อนไหวเปลี่ยนไวมากๆ แต่ถ้าเกมส์ที่ไม่ได้ใช้ภาพเคลื่อนไหวฉับไวก็อาจจะไม่ต้อง Frame Rate ที่สูงมากก็ได้แต่ต้องการภาพที่สมูทเรียบเนียน ซึ่ง Frame Rate และ Frame Time ต่างก็มีสำคัญด้วยกันทั้งคู่ขึ้นอยู่กับสถาณการณ์ครับ

ในครั้งหน้าผมจะกลับมาอธิบายต่อเพิ่มเติมเรื่อง Hardware และ Frame Rate และ Frame Time ครับ ว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างใดครับ

ที่มา : ITMECHAI.COM