5 อย่างที่ควรทำหลังติดตั้ง Windows 10

ยินดีด้วยหากคุณกำลังใช้งาน Windows 10 อยู่ แต่หากไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอะไรหลังจากติดตั้งเสร็จ ลองดูว่ามีอะไรที่ควรจะทำบ้าง

1.เปิด System Restore

หากพบว่า System Restore นั้นไม่ได้เปิดการใช้งานไว้ตั้งแต่ตอนแรกก็ควรจะเปิดการใช้งานไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมายังมีลู่ทางย้อนกลับได้

วิธีการเปิด System Restore

Search ว่า Restore บนช่อง Search แล้วเลือก Create a restore point

2. ตรวจ Windows Defender

ถ้าคุณไม่ได้ติดตั้ง Anti Virus อะไรเพิ่มเติม ควรจะตรวจดูเพื่อความแน่ใจว่า Windows Defender นั้นเปิดอยู่ โดย Real-time Protection นั้นจะต้อง on อยู่ รวมถึง Option ที่เหลือด้วย

วิธีการเปิด Windows Defender

เข้า Setting → Update and Security → Windows Defender

หมายเหตุ ใครที่ลง Anti Virus ตัวอื่นอยู่นั้น มีโอกาสที่จะเปิด Option ต่างๆของ Windows Defender ไม่ได้ก็ไม่ต้องตกใจเพราะ Anti Virus นั้นเป็นคนไปปิดเอง

3.ตั้งค่า Default apps

Windows 10 นั้นมีโปรแกรมพื้นฐานสำหรับการใช้งานติดตั้งมาให้แล้วบางส่วนเช่น Groove Music, Photos แต่หากคุณมีการลงโปรแกรมเสริมเพิ่มเติมไปหรือหากต้องการเปลี่ยนโปรแกรมที่ใช้เปิดก็ควรต้องเข้าไปเปลี่ยน Default apps เพื่อให้เป็นโปรแกรมที่ต้องการเปิด

วิธีการตั้งค่า Default apps

เข้า Setting → System → Default apps

4.เปิด Volume Shadow Copy ให้เป็น Automatic

ข้อมูล File ต่างๆนั้นถือว่าสำคัญ (แม้จะไม่เท่ากันในแต่ละ File) เพราะฉะนั้นเราควรจะสำรองข้อมูลเก็บไว้เสมอ Volume Shadow Copy นั้นก็เป็นการสำรองข้อมูลอีกหนึ่งวิธี ให้ลองนึกถึงว่าเรามีไฟล์ MS Excel อยู่ 1 ไฟล์ กำลังทำงานอย่างเพลิดเพลิน ก่อนปิดก็เซฟงานไว้อย่างดี แต่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าแก้ผิดแล้วดันเซฟทับไปแล้ว จะกู้ข้อมูลกันอย่างไร ก็มีแต่ Volume Shadow Copy เท่านั้นแหละครับที่ช่วยได้

วิธีการเปิด Automatic Volume Shadow Copy

Search หา Services และ เลือก Volume Shadow Copy เปลี่ยนจาก Manual เป็น Automatic

5. จัดการ One Drive

Windows 10 มาพร้อมกับ One Drive เป็นค่าเริ่มต้น โดย One Drive นั้นก็คือ Cloud Storage ของเรานั่นเอง โดยตัว One Drive นั้นจะทำการ sync ข้อมูลบนเครื่องของเราขึ้น Cloud อยู่เสมอ หากใคร Internet ขา Upload ช้า ก็ควรจะต้องมาจัดการควบคุมอัตราความเร็วในการ Upload กันเสียหน่อย

วิธีการ : ค้นหา gpedit.msc บนช่อง Search แล้ว enter จะเข้าสู่ Local Group Policy Editor

เข้า User Configuration → Windows Setting แล้วคลิกขวาที่ Policy-base QoS → Create New Policy

ตั้งค่าโดยการพิมพ์ช่อง Policy name เป็นชื่อโปรแกรม โดยให้พิมพ์ว่า OneDrive และกำหนดความเร็วที่การอัพโหลด (Outbound) โดยมีหน่วยเป็น KBps

เมื่อพร้อมแล้วจึงกด Next ไปเรื่อยๆจน Finish ก็เสร็จเรียบร้อย

ที่มา: ITMECHAI.com